ในการทำแต้ม ทำประตูของบอลยุโรปตอนนี้เรียกได้ว่าปรับการบุก และส่ง รับ ได้อย่างเฉียบขาด โดยมีการปรับเรื่องแนวรุกที่เพิ่มขึ้นเป็น 3 คน เอามาบุกเพื่อที่จะทำประตู ทั้งรับ และส่ง หลอกล่ออีกทางให้ให้ติดตามได้อย่างงง ๆ ให้ได้แต้มเพิ่มอย่างง่ายมากกว่าเดิมหลายครั้ง
1. Atalanta: 41 ประตู
อตาลันต้า ทำได้แล้ว 79 ประตู จากการเล่น 36 เกมในทุกรายการ ในรายการยิงเหล่านี้เป็นผลงานมากจากหลุยส์ มูเรียล ที่ยิงไปแล้ว 18 ประตู ดูวาน ซาปาตาทำแต้มยิงประตู 13 ลูก ส่วน โรบิน โกเซนส์ 10 ประตู เป็น 3 หน่วยทัพหน้าที่แข็งแกร่งอย่างมาก
2. Borussia Dortmund: 43 ประตู
เออร์ลิงก์ ฮาลันด์ จัดการยิงไปแล้ว 27 ประตู จาดอน ซานโชยิงได้ถึง 12 ประตู ทั้งคู่มากับข่าวลือหนาหูเรื่องของการย้ายทีม อีกทั้งยังมี โจวานนี เรย์นา ที่กดไป 4 ประตู จากการลงเล่น 32 นัด โดยมีสิทธิ์ที่จะได้รับตำแหน่งอันดับสามดาวซัลโวของทีม
3. Barcelona: 44 ประตู
ผู้เล่นคนสำคัญอย่าง เมสซี ก็นับว่าเป็นสมบัติชิ้นโตของทีมที่ยังทำรายได้เข้าได้อีกมากมาย แน่นอนว่าเขาเป็นดาวเด่นที่มีไลน์ประสานอย่างแข้งแกร่งเสริมทัพ 24 ประตู ที่ทำได้ พร้อมด้วยอองตวน กรีซมันน์ ยิงได้ 12 ประตู และผู้เล่นทัพหน้าอย่างสมาน เด็มเบเล ทำไปแล้ว 8 ตอนนี้ทีมนี้อยู่ภายใต้ของการควบคุมทีมโดยโรนัลด์ คูมัน
4. Liverpool: 44 ประตู
ด้วยชื่อของ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ที่จัดไป 17 ลูก และอีก 7 ลูกในรายการบอลถ้วย พร้อมทั้ง ซาดิโอ มาเน ทำไป 11 ลูก นักเตะหน้าใหม่ของทีมอย่าง ดิโอโก โชต้า ยิงไปแล้ว 9 ประตู จากการลงเล่น 18 เกม หลังจากอาการบาดเจ็บไปนานกว่า 3 เดือนนั่นเอง
5. Inter Milan: 45 ประตู
หลังจากที่อยู่ทีมเดิมก็สร้างผลงานไว้โดดเด่น และได้ย้ายมาทีมนี้ ก็ไม่ได้ฟอร์มตกลงเลย เป็นการเล่นที่คุ้มค่าเงินที่จ่ายค่าตัวไปอย่างมาก เพราะว่า เป็นดาวซัลโวของทีม ลูกากู ในฤดูกาล 2020-2021 ยิงประตูแล้ว 24 ประตู ทั้งหมดที่ 32 เกมตามมาติดๆ อย่างคู่หูทัพหน้า เลาตาโร มาร์ติเนซ ช่วยยิงไป 15 ประตู และยังมี อชาร์ฟ ฮาคิมี ยิงไป 6 ประตู ที่เพิ่งย้ายจาก เรอัล มาดริด มามาด ๆ ก็เข้ามาเติมเต็มในเกมรุกได้อย่างดี ทำให้ทีมรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของเซเรีย อาเรียบร้อยแล้ว
6. Manchester United: 47 ประตู
ทีมที่มากับรูปแบบการเล่นเกมรุกได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ทำเซอร์ไพร์สหลายครั้ง ด้วยการเล่นที่น่าอัศจรรย์ของมิดฟิลด์ตัวเก่ง บรูโน แฟร์นันเดส พ่วงตำแหน่งดาวซัลโวของทีม ที่สำคัญเขาเป็นตัวเอกของแดนกลาง และที่น่าประทับใจในเกมของแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ยิงลูกโทษเข้ากรอบทำให้ทีมเอาชนะเรือใบสีฟ้าด้วยสกอร์ 2-0 ทำให้เขามีแต้มรวมสถิติเป็น 22 ประตูรวมทุกรายการ และยังได้ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก ที่ตามหลังซาลาห์ เพียงลูกเดียวเท่านั้นเอง แนวร่วมทำประตูอย่างมาร์คัส แรชฟอร์ดยิงแล้ว 18 ประตู อีกทั้งเอลมาทาดอร์’ เอดิสัน คาวานี จัดการยิงได้ 7 ลูก หลังจากเข้ามาแบบไม่มีค่าตัว ด้วยความเก๋าประสบการณ์ที่อายุ 35 ปี
7. Tottenham Hotspur: 49 ประตู
มากับนักเตะทำประตูคนสำคัญที่ยกระดับความสามารถของตัวเองได้อย่างน่าแปลกใจ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีกว่าเดิมอย่างมากเพราะว่ามากับจำนวนที่สูงมากถึง 22 ประตูเลย เป็นดาวซัลโวของทีมและกำลังลุ้นตำแหน่งดาวซัลโวของลีกส์อีกด้วย แอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูได้ถึง 14 ครั้ง ซน เฮือง-มิน คู่หู คู่บุก ทำแล้วจำนวน 18 ประตู ตามมาด้วย ลูคัส มูรา ปีกชาวที่ยิงไป 9 ประตูเลยด้วยกัน
8. Juventus: 50 ประตู
มากับตัวทำประตูระดับตำนานที่เรื่องอายุไม่ได้ทำให้ฟอร์มการเล่นของเขาตกลงเลยสักนิด อีกทั้งยังได้สถิติใหม่ ๆ มาเพิ่มอีกหลายตำแหน่ง เขาตอนนี้ที่ได้แน่นอนคือดาวยิงสูงสุดตลอดกาล ตอนนี้ก็กดไปแล้ว 27 ประตูเลย อัลบาโร โมราต้า เพื่อนร่วมทัพ 14 ประตูที่ทำได้ เฟเดริโก เคียซ่า ที่มากับ 9 ประตู หลังจากพึ่งเข้ามาใหม่ ๆ ด้วยสัญญายืมตัวเท่านั้น แต่ก็ทำฟอร์มเด่นจนกลายเป็นตัวสำคัญในการทำประตูไปแล้ว
9. Paris Saint-Germain: 51 ประตู
ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่สำหรับทีมนี้มากับตัวนักเตะที่ขึ้นชื่อเรื่องของค่าตัวระดับโลก ต้องมาพร้อมคุณสมบัติที่คุ้มค่าอย่างมาก เพราะว่าคีลิยัน เอ็มบัปเป ทำได้ 23 ประตูเลยด้วยกัน ไม่ธรรมดาตรงที่สามารถทำแฮตทริกใส่ บาร์เซโลนา ในศึกยูฟ่า แชมเปียส์ลีก มอยเซ คีน ด้วยสัญญายืมตัว พร้อมกับ 15 ประตูที่ทำได้จาก 27 เกมที่ลงแข่งขัน จบที่ เนย์มาร์ยิงไป 13 ประตู ทั้งทีเริ่มต้นด้วยการบาดเจ็บ คิดดุว่าถ้าไม่เจ็บ จะทำได้ขนาดไหน
10. FC Bayern München: 55 ประตู
ทีมนี้มากับฟอร์มการเล่นที่โหดตลอดกาล ตำแหน่ง ‘เจ้าแห่งยุโรป’ โรเบิร์ต เลวานดอร์ฟสกี ที่ยิงไปแล้ว 34 ประตูเลย เพื่อร่วมทัพอย่าง โธมัส มุลเลอร์ และ แซร์จ กนาบรี้ ที่ยิงได้ 13 และ 9 ประตูเลยด้วยกัน ทำแฮตทริกใส่ ดอร์ตมุนด์ อีกด้วย
รู้หรือไม่ นักบอลที่ทำประตูเยอะที่สุดของโลก คือใคร
เขาคือนักทีมชาติ เยอรมนี ชื่อว่า Erwin Helmchen สามารถที่จะทำไปได้แล้ว +982 จากนัดการแข่งขันรวมทั้งหมด 575 วัดได้ค่าเฉลี่ย 1.71 ลงเล่นในช่วงปี 1924–1951 นับว่าทำประตูได้อย่างไม่มีใครมาล้มได้เลยตอนนี้
อ้างอิง
https://www.gqthailand.com/lifestyle/article/9-team-mates-hated-football